สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) สนับสนุนการเพิ่มมูลค่าวัสดุเหล่ือทิ้งจากกระบวนการแปรรูปปลา สลิด จึงได้สนับสนุนทุนการถ่ายทอดเทคโนโลยีโครงการ “การถ่ายทอดองค์ความรู้การเพิ่มมูลค่าวัสดุเหล่ือทิ้ง จากกระบวนการแปรรูปปลาสลิดในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ” พัฒนาออกมาเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น น้ำพริกจากหัวปลาสลิด คุกกี้เสริมแคลเซียมจากก้างปลาสลิด การสกัดเจลาตินจากเกล็ดปลาสลิด เยลลี่ต้าน อนุมูลอิสระจากเจลาตินปลา และผงเขย่ารสน้ำพริกนรกจากเศษเนื้อปลาสลิด นอกจากจะช่วยเสริมรายได้ ให้กับเกษตรกรแล้ว ยังช่วยลดปัญหาให้กับสิ่งแวดล้อม

ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ เปิดเผยว่า เนื่องจากในกระบวนการผลิต และการแปรรูปสินค้าเกษตรส่วนใหญ่มักจะมีของเหลือทิ้งจากกระบวนการผลิตอยู่เป็นจำนวนมาก หากการ จัดการไม่ดีก็จะกลายเป็นของเสียที่สร้างมลพิษให้กับสิ่งแวดล้อม แต่ในความเป็นจริงวัสดุเหลือทิ้งทาง การเกษตรยังสามารถนำมาใช้ประโยชน์ในด้านต่างๆ ได้ เช่น เป็นเชื้อเพลิงในการผลิตพลังงาน การแปรรูปเป็น ผลิตภัณฑ์อาหารประเภทต่างๆ ซึ่งนอกจากจะเป็นการเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกรแแล้ว ยังช่วยลดปัญหาด้าน สิ่งแวดล้อมได้อีกทางหนึ่ง ภายใต้โครงการจัดการความรู้และถ่ายทอดเทคโนโลยีจากผลงานวิจัยและนวัตกรรม สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) จึงได้สนับสนุนทุนโครงการ “การถ่ายทอดองค์ความรู้การเพิ่มมูลค่าวัสดุ เหล่ือทิ้งจากกระบวนการแปรรูปปลาสลิดในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ” เพื่อส่งเสริมให้เกษตรกรหันมาสนใจ เพิ่มมูลค่าจากวัสดุเหลือทิ้ง เกิดการผลักดันการผลิตผลิตภัณฑ์จากของเหลือทิ้ง และส่งเสริมกระบวนการ Zero waste เพื่อขยายผลไปยังกระบวนการอื่นๆ ต่อไป

พระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง หัวหน้าโครงการ “การถ่ายทอดองค์ความรู้การเพิ่ม มูลค่าวัสดุเหล่ือทิ้งจากกระบวนการแปรรูปปลาสลิดในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ” เปิดเผยว่า จากการลงพื้นที่ ทำงานวิจัยร่วมกับกลุ่มแปรรูปปลาสลิดที่อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ มาเป็นเวลานาน ทั้งในส่วน โครงการของมหาวิทยาลัย และโครงการที่ได้รับการสนับสนุนจากแหล่งทุนต่างๆ พบว่ามีของเหลือทิ้งจาก กระบวนการแปรรูปปลาสลิดเป็นจำนวนมาก จึงเกิดแนวคิดในการนำวัสดุเหลือทิ้งเหล่านั้นมาพัฒนาเป็น ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่พร้อมจะถ่ายทอดความรู้ให้แก่เกษตรกร จึงได้ขอทุนสนับสนุนจากสำนักงานการวิจัย แห่งชาติ โครงการ “การถ่ายทอดองค์ความรู้การเพิ่มมูลค่าวัสดุเหล่ือทิ้งจากกระบวนการแปรรูปปลาสลิดใน พื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ” เพื่อนำความรู้เหล่านี้ไปถ่ายทอดให้กับเกษตรกรเพื่อเพิ่มรายได้และลดของเสียใน ชุมชน โดยใช้รูปแบบการอบรมเชิงปฏิบัติการ และให้ชาวบ้านทำตัวอย่างผลิตภัณฑ์ตามที่ได้รับการอบรม เช่น เกล็ดปลาสลิด นำมาสกัดเป็นเจลาตินแผ่นจากนั้นนำเจลาตินแผ่นไปพัฒนาเป็นอาหารสำหรับผู้สูงอายุ หัวปลา สลิดวัสดุที่ชาวบ้านเคยทิ้ง นำมาทอดให้กรอบแล้วทำเป็นน้ำพริกหัวปลาสลิด ก้างปลานำมาทอดกรอบ อบไล่ น้ำมันเพื่อไม่ให้มีกลิ่น ป่นเป็นผงแล้วนำมาเป็นส่วนผสมของคุ้กกี้เสริมแคลเซียม ส่วนร้านที่ทอดปลาสลิดก็จะ มีเศษปลาทอดกรอบชิ้นเล็กๆ ที่ไม่สามารถขายได้ก็จะนำมาทำเป็นน้ำพริก นำมาปรุงรสผสมสมุนไพร พัฒนา เป็นเครื่องปรุงรส (Seasonings) สำหรับใส่อาหาร และผงเขย่ารสน้ำพริกนรกจากเศษเนื้อปลาสลิด

เนื่องจากพื้นที่บริเวณนั้น นอกจากกลุ่มเกษตรกรที่แปรรูปปลาสลิดซึ่งเป็นกลุ่มใหญ่แล้ว ยังมี เกษตรกรกลุ่มย่อยๆ อยู่ค่อนข้างหลากหลาย เช่น กลุ่มเกษตรกรแปรรูปน้ำฟักข้าว กลุ่มสมุนไพร กลุ่มแปรรูป ผลิตภัณฑ์จากหนังจระเข้ ซึ่งและมีความกระตือรือร้นค่อนข้างมาก จากเดิมโครงการฯ ตั้งใจเข้าไปอบรม ความรู้เรื่องการแปรรูปปลาสลิด แต่ปรากฏว่าเกษตรกรกลุ่มต่างๆ ให้ความสนใจมาร่วมประชุมกันหลากหลาย ตามความสนใจของแต่ละกลุ่ม โครงการจึงให้แนวคิดในเรื่องการใช้วัสดุเหลือทิ้งจากการแปรรูปผลผลิตทาง การเกษตรของแต่ละกลุ่ม ซึ่งชาวบ้านสามารถนำไปต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ได้อีกหลายประเภท เช่น กลุ่มทำน้ำ ฟักข้าว นำเมล็ดที่เหลือจากการแปรรูปไปทำเป็นเครื่องประดับ กลุ่มทำผลิตภัณฑ์จากหนังจระเข้ นำเศษหนัง ชิ้นเล็กที่เหลือทิ้ง นำมาเย็บรวมเป็นผืนเพื่อขึ้นรูปเป็นกระเป๋าในสตางค์ กลุ่มสมุนไพรก็นำสมุนไพรที่ผลิตได้มา รวมกับกลุ่มปลาสลิดทำเป็นปลาสลิดทอดผสมสมุนไพร นอกจากนี้ก็ยังให้แนวคิดในเรื่องของแพ็คเกจจิ้งไปด้วย จากความสมบูรณ์ของทรัพยากร และความหลากหลายของกลุ่มอาชีพ ประกอบกับความกระตือรือร้นของคน ในชุมชน ชาวบ้านจึงเสนอให้มีการพัฒนาการเกษตรควบคู่ไปกับการท่องเที่ยว เพราะสามารถทำได้ทั้งทางรถ และทางเรือ