Gojek (โกเจ็ก) แพลตฟอร์มชั้นนำในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่นำเสนอหลากหลายบริการแบบออนดีมานด์ เปิดมาตรการช่วยเหลือและสนับสนุนทุกฝ่ายในระบบอีโค่ซิสเต็ม ให้สามารถก้าวผ่านภาวะวิกฤตโควิด-19 ไปด้วยกันผ่านแคมเปญ “GoStronger” ที่ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เกิดสถานการ์ณโควิด -19 และได้มีการเสริมมาตรการในหลายด้านในช่วงโควิด-19 ระลอก 3 นี้ เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายให้กับผู้ใช้บริการ ช่วยส่งเสริมรายได้ให้กับพาร์ทเนอร์ร้านอาหารและพาร์ทเนอร์คนขับ รวมถึงดูแลทุกฝ่ายในระบบอีโค่ซิสเต็มให้มีความปลอดภัยมากขึ้น
เพื่อช่วยลดภาระแก่ร้านอาหารขนาดเล็กและขนาดกลาง Gojek จะมอบส่วนลดค่าคอมมิชชั่น โดยผู้ประกอบการสามารถเลือกระหว่าง

  • การลดค่าคอมมิชชั่นเหลือสูงสุดไม่เกิน 25% ช่วยให้ร้านค้าจ่ายค่าคอมมิชชั่นลดลง
  • รับส่วนลดค่าคอมมิชชั่นที่เปลี่ยนมาเป็นส่วนลดสำหรับร้านของตนเอง เพื่อเพิ่มยอดขายและเป็นสิทธิประโยชน์ให้กับผู้ใช้บริการ โดย Gojek จะมอบส่วนลด 15-20% สำหรับทุกออเดอร์ภายในร้านตลอดช่วงเวลาแคมเปญ ร้านพาร์ทเนอร์ที่สนใจสามารถลงทะเบียนและเลือกรับสิทธิ์ได้ทางแบบฟอร์มออนไลน์ของโครงการ ลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันที่ 24-30 พ.ค. 64 และสามารถใช้สิทธิ์ส่วนลดได้ตั้งแต่ 1-30 มิ.ย. 64
    นอกจากนี้ Gojek ยังได้ทำงานอย่างใกล้ชิดร่วมกับกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับผู้บริโภค โดยร่วมเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ “พาณิชย์ลดราคาช่วยประชาชน” Lot 11 มอบส่วนลดสำหรับบริการส่งอาหาร (GoFood) และบริการส่งพัสดุ (GoSend) โดยลดสูงสุดถึง 50% ตั้งแต่ 24 พ.ค. – 27 มิ.ย. 64
  • ใส่โค้ด GOSTRONGER รับส่วนลดค่าอาหารสูงสุด 50% ทุกสัปดาห์ ลดสูงสุด 50 บาท เมื่อสั่งขั้นต่ำ 100 บาท (เฉพาะร้านพาร์ทเนอร์ที่ร่วมรายการ / สิทธิ์มีจำนวนจำกัด)
  • ใส่โค้ด GOTOGETHER รับส่วนลดค่าส่งฟรี ทุกสัปดาห์ สำหรับบริการ GoFood ลดค่าส่ง 12 บาท ไม่มีขั้นต่ำ (เฉพาะร้านพาร์ทเนอร์ที่ร่วมรายการ / สิทธิ์มีจำนวนจำกัด)
  • ใส่โค้ด GJSEND รับส่วนลด 20 บาท ทุกสัปดาห์ สำหรับบริการ GoSend ไม่มีขั้นต่ำ (สิทธิ์มีจำนวนจำกัด)
    นายชรี ชากราวาร์ธี กรรมการผู้จัดการใหญ่
    Gojek ประเทศไทย กล่าวว่า “ตลอดเวลาที่ผ่านมา Gojek ทำงานอย่างเต็มที่เพื่อหาหนทางสนับสนุนพาร์ทเนอร์ร้านอาหาร พาร์ทเนอร์คนขับ และผู้ใช้บริการหลายล้านคน ทั้งในด้านการยกระดับความปลอดภัยในการให้บริการ การช่วยลดภาระค่าใช้จ่าย และการช่วยเพิ่มรายได้ ผ่านการปรับปรุงและพัฒนาเทคโนโลยี การสร้างการรับรู้ด้านสุขภาพและความปลอดภัย ตลอดจนการสานความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐและพันธมิตรทางธุรกิจต่างๆ เพราะเราทราบดีว่าบริการต่างๆ ของเรามีส่วนสำคัญในการช่วยอำนวยความสะดวกในการใช้ชีวิตประจำวัน ช่วยสร้างงานสร้างรายได้ และช่วยให้คนไทยสามารถเว้นระยะห่างทางสังคมได้”
  • แนวทางการดำเนินงานอื่นๆภายใต้แคมเปญ GoStronger
    • การให้บริการแบบ Contactless Delivery Gojek เดินหน้าพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อบริการแบบปลอดภัยไร้สัมผัสตลอดการสั่งซื้อ ด้วยการชำระเงินแบบออนไลน์ทั้งทางกระเป๋าเงินอิเล็กทรอลนิกส์ (GoPay) และทางบัตรเครดิตและเดบิต และระบบข้อความอัตโนมัติผ่านทางแชทบ็อกซ์ ที่ผู้ใช้บริการสามารถแจ้งคนขับได้สะดวกและรวดเร็วว่าต้องการให้คนขับวางอาหารไว้ที่จุดไหน เพื่อการเว้นระยะห่างอย่างปลอดภัยทั้งสำหรับผู้ใช้บริการและพาร์ทเนอร์คนขับ
    • พัฒนาระบบเปิดรับพาร์ทเนอร์ร้านค้าและคนขับออนไลน์ที่รวดเร็ว Gojek ไม่หยุดยั้งในการพัฒนาระบบการรับสมัครร้านค้าให้รวดเร็วยิ่งขึ้น เพื่อสนับสนุนผู้ที่สนใจเปิดร้านออนไลน์เพื่อช่วยเพิ่มยอดขายและรายได้ในภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้ โดยปัจจุบัน ร้านอาหารสามารถสมัครเป็นพาร์ทเนอร์กับ Gojek ได้สะดวกผ่านเว็บไซต์ และพร้อมเปิดร้านได้ภายใน 3-7 วันทำการ สำหรับพาร์ทเนอร์คนขับ Gojek ได้พัฒนาระบบการสมัครออนไลน์ที่รวดเร็ว ไม่มีค่าสมัคร และเริ่มงานได้ภายใน 2 วันทำการ หลังส่งเอกสารครบถ้วน สามารถสมัครได้ทางแอปพลิเคชัน GoPartner
    • กองทุนสนับสนุนพาร์ทเนอร์ของ Gojek (Gojek Partner Support Fund) ที่ตั้งขึ้นมาในปี 2563 ได้ให้ความสนับสนุนในหลายด้านตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา โดยโปรแกรมปัจจุบันนี้ คือการมอบเงินชดเชยรายได้สูงสุด 6,000 บาท สำหรับพาร์ทเนอร์คนขับและพาร์ทเนอร์ร้านอาหารรายย่อยที่ติดเชื้อโควิด-19 หรือต้องกักตัวหากอยู่ในกลุ่มความเสี่ยงสูง ซึ่งจะช่วยให้พาร์ทเนอร์สามารถทำงานและให้บริการต่างๆ ได้ด้วยความมั่นใจมากยิ่งขึ้นว่าจะได้รับการสนับสนุนและดูแล
      Gojek ยังคงเดินหน้าเพื่อส่งมอบบริการที่จำเป็นสำหรับทุกคน ด้วยความรวดเร็วและความปลอดภัย เพื่อให้ทุกฝ่ายสามารถผ่านพ้นภาวะวิกฤตนี้ไปได้ด้วยกันอย่างเข้มแข็ง